วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

บทที่ 1 ความหมายและความสำคัญของการท่องเที่ยว







การท่องเที่ยวสัมพันธ์กับ
-การเยี่ยมสถานที่ต่างๆ
-การไปร่วมกิจกรรมบางอย่าง เยี่ยมเยียนญาติมิตร ประชุม
-ชาวต่างประเทศ สะพายกระเป๋า เดินอยู่กลางถนน
-ชาวต่างประเทศ นอนอาบแดดอยู่ริมชายหาด

การท่องเที่ยวคืออะไร?
-การท่องเที่ยวเป็นรูปแบบกิจกรรมหนึ่ง ของนันทนาการ กีฬา งานอดิเรก
และการใช้เวลาว่าง
-การท่องเที่ยวเกี่ยวกับการเดินทาง จึงมีปัญหาว่าการเดินทางที่จัดเป็นการท่องเที่ยว ต้องมีจุดประสงค์อย่างไรและเดินทางด้วยระยะทางเท่าไหร่



องค์ประกอบของการท่องเที่ยว
-การเดินทางจากที่อยู่อาศัยปกติไปยังที่อื่นเป็นการชั่วคราว
-เป็นการเดินทางด้วยความสมัครใจ
-เป็นการเดินทางด้วยวัตถุประสงค์ใดๆ ก็ตามที่มิใช่เพื่อการประกอบอาชีพ หรือ หารายได้

การเดินทางที่จัดเป็นการท่องเที่ยว
-การเดินทางไปจาริกแสวงบุญ อาทิ แม่พลอยไปนมัสการรอยพระพุทธบาทที่สระบุรี
-การเดินทางไปพักฟื้น หรือ รักษาตัวในสถานที่ต่างๆ
-การเดินทางไปชมการแข่งขันกอล์ฟที่ต่างประเทศ
-การเดินทางไปประชุมต่างๆ หรือ เยี่ยมเยียนญาติมิตร

การเดินทางที่ไม่จัดเป็นการท่องเที่ยว
-การเดินทางไปตั้งถิ่นฐานถาวรในต่างประเทศ
-การเดินทางไปประกอบอาชีพ
-การเดินทางที่ไม่ได้เต็มใจไป อาทิ การเดินทางด้วยการถูกบังคับ

จากนิยามการท่องเที่ยวของการประชุมใน พ.ศ 2506 (Holloway J.Chistropher)
-ให้เรียกผู้ที่เดินทางเพื่อการท่องเที่ยวว่า ผู้เยี่ยมเยือน (visit)
จำแนกเป็น
1.นักท่องเที่ยว (Tourist)
2.นักทัศนาจร (Excursionist)
การจำแนกประเภทของผู้เดินทางเพื่อการท่องเที่ยว เพื่อประโยชน์ในการเก็บข้อมูล

การจำแนกประเภทของผู้มาเยือน
-นักท่องเที่ยว คือ ผู้ที่มาเยือนชั่วคราว ซึ่งพักอยู่ ณ สถานที่ ที่ไปเยือนอย่างน้อย 24 ช.ม และมีการพักค้างคืนอย่างน้อย 1 คืน
-นักทัศนาจร คือ ผู้ที่มาเยือนชั่วคราว ซึ่งพักสถานที่นั้นน้อยกว่า 24 ช.ม และไม่พักค้างคืน

ผู้มาเยือนแบ่งออกเป็น
-ผู้มาเยือนขาเข้า (In bound visitor)คือ ผู้ที่มีถิ่นพำนักในต่างประเทศและเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศอีกครั้ง
-ผู้มาเยือนขาออก (out bound visitor)คือ ผู้ที่มีถ่นพำนักอยู่ในประเทศหนึ่ง และเดินทางไปเที่ยวที่ต่างประเทศ
-ผู้มาเยือนภายในประเทศ (domestic visitor)คือ ผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศที่ตนมีถิ่นพำนักอยู่

วัตถุประสงค์การท่องเที่ยว
มนุษย์เดินทางเพื่อการท่องเที่ยวเพื่อความต้องการและเป้าหมายที่แตกต่างกัน เช่น ผักผ่อน ออกกำลังกาย ช้อปปิ้ง
การท่องเที่ยวเพื่อความเพลิดเพลินและความสนุกสนานและพักผ่อน (Holiday)
ความเพลิดเพลิน สนุกสนาน เป็นจุดมุ่งหมายหลักของการท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวมีวันหยุดที่จำกัด ดังนั้นจึงพยายามไม่เอาหน้าที่การงาน ความจำเจ ของชีวิตประจำวันมาเกี่ยวข้อง การเดินทางไปอาบแดด เล่นน้ำตก สวนสนุก เป็นต้น

การท่องเที่ยวเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ(Business)
แม้การท่องเที่ยวทางธุรกิจเหมือนจะมีจุดมุ่งหมายในการทำงาน แต่การทำงานนั้นเป็นกระบวนการสร้างรายได้ในอนาคต อาทิ การติดต่อทางการค้า การประชุม เป็นต้น แบ่งออกเป็น
-การเดินทางเพื่อธุรกิจทั่วไป
-การเดินทางเพื่อการประชุม การท่องเที่ยวเป็นรางวัลในการสัมมนา (Mice)

การท่องเที่ยวเพื่อความสนใจพิเศษ Special Interest Tourism
เป็นการตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว ในระดับที่ซับซ้อนมากขึ้น จากแค่เพียงต้องการพักผ่อน เพลิดเพลิน นักท่องเที่ยวต้องการที่จะเรียนรู้วัฒนธรรม ประเพณี ธรรมชาติ ในระดับที่ลึกเป็นต้น

ประเภทของการท่องเที่ยวแบ่งออกเป็น 3 ประเภท
แบ่งตามเวลาสากล

1.การท่องภายในประเทศ (Domestic Tourism)
2.การท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศ (In bound Tourism)
3.การท่องเที่ยวนอกประเทศ (Out bound Tourism)

แบ่งตามลักษณะการจัดการเดินทาง
1.การท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะ(Group Inlusive Tour.GIT)
1.1 กรุ๊ปเหมา
1.2 กรุ๊ปจัด
2.การท่องเที่ยวแบบอิสระ(Foreing Individual Tour:FIT)

แบ่งตามวัตถุประสงค์การเดินทาง
1.เพื่อความเพลิดเพลินสนุกสนานและพักผ่อน
2.เพื่อธุรกิจ
3.เพื่อวัตถุประสงค์พิเศษ

รูปแบบของการท่องเที่ยวเพื่อความสนใจพิเศษ
-การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ คำนึงถึง สิ่งแวดล้อม
-การท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม รำไทย ตลาดน้ำ บ้ารเรือนไทย
-การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและกีฬา อาบน้ำแร่ แช่น้ำพุร้อน ปีนเขา
-การท่องเที่ยวเพื่อการศึกษา เรียนsummer เรียนภาษา
-การท่องเที่ยวเชิงชาติพันธุ์ การเก็บชา ทำอย่างไร



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น